เนื่องจากภายในร้านอาหารที่เปิดการใช้งานแล้ว มีการจัดวางโต๊ะเก้าอี้ หรือการตกแต่งภายในร้าน ด้วยสิ่งของจำนวนมาก แน่นอนว่า วัสดุตกแต่งเหล่านี้ เป็นการยากที่จะรู้คุณสมบัติการดูดซับเสียง เพื่อนำมาใช้คำนวณหาค่าความก้องภายในห้อง
สิ่งสำคัญในการประเมินอคูสติกภายในห้องเพื่อนำมาออกแบบ คือ การตรวจวัดค่าความก้องที่หน้างานจริง
โดยในการตรวจวัด วิศวกรได้ใช้ เครื่องวัดเสียง NTI รุ่น XL2 และ อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณเสียง MR-Pro
โดยกระบวนการทดสอบ ทำโดยการปล่อยสัญญาณเสียง Pink noise เข้าไปยังระบบเครื่องขยายเสียงภายในร้าน และทำการวัดค่าความก้องภายในร้าน หลายๆจุด เพื่อนำค่าความก้องมาเฉลี่ย
ถึงแม้เราจะได้จำนวนฟองน้ำ ที่จะใช้เพื่อควบคุมความก้องภายในร้านให้เหมาะสมแล้วนั้น แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องคำนึงถึงตำแหน่งการติดตั้งด้วย โดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับห้องขนาดใหญ่ เรียงลำดับตามนี้
1. ผนังด้านหลังห้อง (ผนังตรงข้ามเวที) ผนังด้านนี้ควรมีการติดตั้งวัสดุดูดซับเสียง นอกจากการควบคุมความก้องแล้ว ยังป้องกันเสียงสะท้อนจากหลังห้องกลับไปที่หน้าห้อง ซึ่งจะทำให้คนที่อยู่บนเวที ได้ยินเสียงสะท้อนกลับ จนเกิดความสับสนได้
2. ฝ้าเพดาน ส่วนใหญ่แล้ว การควบคุมเสียงก้อง พื้นที่ผิวของผนังด้านหลังห้อง แม้จะติดเต็มพื้นที่ ก็อาจจะยังควบคุมความก้องไม่เพียงพอ ตำแหน่งต่อไปคือ ฝ้าเพดาน เพื่อช่วยควบคุมความก้องได้ดี และดูแลรักษาง่าย เพราะไม่เกิดความเสียหายจากการหยิบจับของลูกค้าที่เข้ามาภายในร้าน
VDO ด้านล่างคือเสียงหลังจากที่ทำการติดตั้งแผ่นซับเสียง TOP TONE ไปแล้ว พบว่าเสียงคมชัดขึ้น ได้ยินเสียงเบสชัดเจน ไม่ดังแสบหูเหมือนเดิมแล้ว
แนวทางการแก้ไขปัญหา โดยจากรูปภายในตัวร้าน จะเห็นได้ชัดว่า
- ร้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่ (กว้าง 12 เมตร และยาว 16 เมตร) ฝ้าเพดานมีความสูงประมาณ 6.5 เมตร
- ฝ้าเพดานภายในร้าน ตกต่างด้วยด้วยไม้อัดทำสี
- ผนังร้านส่วนใหญ่เป็นกระจก
- พื้นปูนขัดมัน
- โต๊ะ เก้าอี้ภายในร้าน ทำจากไม้เรียบแข็ง เน้นการใช้งานและทำความสะอาดง่าย
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ซึ่งขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ และพื้นผิวเรียบแข็งสะท้อนเสียงได้ดี ส่งผลให้ภายในร้านมีความก้องค่อนข้างมาก
จาก VDO ด้านล่าง เป็นเสียงที่บันทึกการแสดงดนตรีในร้าน จะเห็นว่าเสียงก้องมากจน เสียงเพลงดังแสบหูเลยครับ
บทความนี้เป็นการแชร์แนวทางการปรับปรุงแก้ไขปัญหาเสียงก้องสะท้อนภายในร้านอาหาร ที่มีปัญหาว่าภายในร้านมีเสียงก้องสะท้อนมากเกินไป ส่งผลให้เมื่อลูกค้าเข้ามาภายในร้านจำนวน ทุกคนต่างพูดคุยกัน ทำให้เสียงดังจะน่ารำคาญ
เมื่อเราสามารถปรับแก้ค่าการดูดซับเสียงจน ค่าคำนวณใกล้กับผลการวัดได้แล้ว เราจึงทำการแทนที่พื้นผิวของวัสดุภายในห้องด้วยค่าการดูดซับเสียงของแผ่นฟองน้ำ ไปเรื่อยๆ จนค่าความก้องลดลงไปอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จึงถือว่าการออกแบบจำนวนแผ่นฟองน้ำเสร็จสมบูรณ์
เนื่องจากภายในร้านอาหารที่เปิดการใช้งานแล้ว มีการจัดวางโต๊ะเก้าอี้ หรือการตกแต่งภายในร้าน ด้วยสิ่งของจำนวนมาก แน่นอนว่า วัสดุตกแต่งเหล่านี้ เป็นการยากที่จะรู้คุณสมบัติการดูดซับเสียง เพื่อนำมาใช้คำนวณหาค่าความก้องภายในห้อง
สิ่งสำคัญในการประเมินอคูสติกภายในห้องเพื่อนำมาออกแบบ คือ การตรวจวัดค่าความก้องที่หน้างานจริง
โดยในการตรวจวัด วิศวกรได้ใช้ เครื่องวัดเสียง NTI รุ่น XL2 และ อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณเสียง MR-Pro
โดยกระบวนการทดสอบ ทำโดยการปล่อยสัญญาณเสียง Pink noise เข้าไปยังระบบเครื่องขยายเสียงภายในร้าน และทำการวัดค่าความก้องภายในร้าน หลายๆจุด เพื่อนำค่าความก้องมาเฉลี่ย
เมื่อทำได้ผลการวัดค่าความก้องมาแล้ว จึงนำข้อมูลผลการวัดมาเปรียบเทียบการคำนวณ แน่นอนว่า ผลการคำนวณในครั้งแรกจะไม่เหมือนกับผลการวัดแน่นอน เพราะค่าการดูดซับเสียง โดยเฉพาะ บริเวณพื้น ที่มีการวางโต๊ะเก้าอี้จำนวนมาก ย่อมมีค่าการดูดซับแตกต่าง จากค่าการดูดซับเสียงของพื้นปูนขัดมันโล่งๆ อยู่แล้ว
เราจึงจำเป็นต้องค่อนๆ ปรับแต่งค่าการดูดซับเสียงของพื้นขัดมันไปเรื่อยๆ จนค่าความก้องจากการคำนวณใกล้เคียงกับผลการวัดจริงในระดับนึง
credit: avl.co.th